เทคนิค และ รูปแบบการร้องเพลงประสานเสียง

เพลงประสานเสียงเป็นเพลงที่เขียนขึ้นโดยเฉพาะสำหรับวงดนตรี โดยที่คณะนักร้องประสานเสียงอาจแสดงดนตรีเพลงคลาสสิกที่ตั้งแต่ช่วงยุคกลางถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีคนคอยกำกับที่เรียกว่า “Conductor” เปรียบเสมือนกับหัวหน้าวงดนตรีที่นำการแสดงด้วยท่าทางแขนและใบหน้า โดยมักจะนิยมทำภายในคริสตจักร และบางส่วนก็จัดแสดงคอนเสิร์ตฮอล์แต่จะไม่มีความเข้มงวดเท่ากัน นักร้องประสานเสียงอาจร้องเพลงได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือประกอบกับการบรรเลง แต่เครื่องดนตรีที่นี้ยมนำมาใช้คือ เปียโน ออร์แกน หรือวงออเคสตราที่เต็มไปด้วยนักดนตรี 70 ถึง 100 คน บทบาทของคอนดัดเตอร์ ด้วยท่าทางท่าทางที่มองเห็นได้ด้วยมือ แขน ใบหน้า...

เพลงประสานเสียงเป็นเพลงที่เขียนขึ้นโดยเฉพาะสำหรับวงดนตรี โดยที่คณะนักร้องประสานเสียงอาจแสดงดนตรีเพลงคลาสสิกที่ตั้งแต่ช่วงยุคกลางถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีคนคอยกำกับที่เรียกว่า “Conductor” เปรียบเสมือนกับหัวหน้าวงดนตรีที่นำการแสดงด้วยท่าทางแขนและใบหน้า โดยมักจะนิยมทำภายในคริสตจักร และบางส่วนก็จัดแสดงคอนเสิร์ตฮอล์แต่จะไม่มีความเข้มงวดเท่ากัน นักร้องประสานเสียงอาจร้องเพลงได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือประกอบกับการบรรเลง แต่เครื่องดนตรีที่นี้ยมนำมาใช้คือ เปียโน ออร์แกน หรือวงออเคสตราที่เต็มไปด้วยนักดนตรี 70 ถึง 100 คน บทบาทของคอนดัดเตอร์ ด้วยท่าทางท่าทางที่มองเห็นได้ด้วยมือ แขน ใบหน้า และศีรษะ หน้าที่หลักของผู้ควบคุมวง หรือนักร้องประสานเสียง คือกำหนดจังหวะ คอนดัดเตอร์ส่วนใหญ่มักจะยืนอยู่บนแท่นยก โดยอาจถือไม้ยาวเป็นอุปกรณ์ช่วยในสมาชิกภายในวงสามารถสังเกตุเห็นการออกท่าทางได้ง่ายขึ้น ในยุคปี 2010 คอนดัดเตอร์ส่วนใหญ่จะไม่นิยมที่จะเล่นเครื่องดนตรีไปพร้อมๆกับการนำเพลง แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ของประวัติศาสตร์ดนตรีคลาสสิกที่เหล่าผู้นำเพลงมันจะมีบทบาทในการเล่นเครื่องดนตรีไปพร้อมๆกับนำเพลงไปด้วย ซึ่งในสมัยนี้มันถือว่าทำให้ขาดประสิทธิภาพในการนำเพลง จึงลดความนิยมกันไปอย่างมากในปัจจุบัน เทคนิคในการร้องเพลงประสานเสียง การที่จะร้องเพลงให้ได้ออกมาไพเราะ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือการออกเสียงให้ถูกต้อง รวมถึงการควบคุมลมหายใจเข้าออก จะทำให้เราสามารถขับร้องออกมาได้อย่างมีจังหวะมากขึ้น นอกจากนี้ถ้าผู้ร้องสามารถทำความเข้าใจความหมายของเพลงได้ จะช่วยให้สื่ออารมณ์ระหว่างร้องได้เป็นอย่างดี แต่มีควรจะโอเวอร์จนเกินไป ต่อมาคือเสียงทั้ง 4 แบบที่ควรทำความรู้จักกันเอาไว้คือ เสียงโซปราโน, เสียงอาลโต, เสียงเนเตอร์ และเสียงเบส โดยเราสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1.เสียงโซปราโน เป็นเสียงสูง คือ “โด – ซอล” 2.เสียงอาลโต […]

Read more
song-new

การร้องเพลงไม่ใช่เรื่องยากและทุกคนสามารถเรียนรู้ที่จะร้องเพลง ผมได้แบ่งเทคนิคการร้องเพลงออกเป็นสี่วิชาหลักๆ โดยการรวมองค์ประกอบของวิชาเหล่านี้เข้าด้วยกัน คุณสามารถที่จะทำเสียงในรูปบบที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำ แต่ก่อนอื่นจะต้องสามารถระบุปัญหา และข้อผิดพลาดเฉพาะของคุณให้ได้ก่อน และมุ่งเน้นไปที่เทคนิคที่คุณต้องการนำมาใช้งาน สิ่งที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้คือหลักการทั้ง 2 นั้นเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดที่จะทำให้เสียงคุณสมบูรณ์แบบ เป็นสิ่งที่จะทำให้สามารถเข้าถึงพลังในการควบคุมเสียงสูงและต่ำของนักร้องแต่ละคน การร้องเพลงที่มีท่อนยาวๆ เพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจนทรงพลังและเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงแหบ จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ การวางท่า บางทีอาจมีความลับอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้แม่ของคุณเตือนคุณอยู่ตลอดเวลา ว่าเวลายืนนั้นจะต้องให้ยืนให้ตัวตรง ความจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือมันทำให้คุณเป็นนักร้องที่ดีขึ้นได้ การจัดตำแหน่งส่วนต่างๆของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเสียงของคุณในขณะที่ขจัดความตึงเครียดออกไป ความตึงเครียดไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์ของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการจำกัดการไหลของอากาศที่เข้ามา ทำให้เสียงที่ได้นั้นไม่ทรงพลังและไม่ใสเท่าที่ควรจะเป็น วิธีการฝึกวางท่าให้เริ่มหากำแพงซักที่ เอาหลังแนบติดกำแพงไว้โดยจะต้องให้หัวแนบติดกำแพงด้วย พยายามผ่อนคลาย ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ควรอยู่ที่กล้ามเนื้อหน้าท้องคุณ ซึ่งจะช่วยเป็นพลังสำหรับใช้ในการร้องเพลงของคุณ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าคุณทำสิ่งนี้ที่หน้ากระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี้จะช่วยให้เห็นภาพท่าทางของตัวเอง จะได้ดูว่าการวางท่าของเราถูกต้องดีหรือไม่ จังหวะลมหายใจ ลองกลั้นหายใจและร้องเพลงหรือพูดดูสิ คุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมหมายถึงแน่ อากาศหรือลมหายใจเป็นส่วนประกอบสำคัญของเสียงร้องที่ไพเราะ เมื่อร้องเพลง คำร้องนั้นจะแตกต่างไปจากที่คุณพูดประโยคนั้นออกมาดังๆ การเรียนรู้ฝึกฝนการหายใจอย่างเหมาะสมเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการพัฒนาความสามารถในการร้องเพลงของคุณ ถ้าคุณเป็นคนที่ค่อยได้ไม่ออกกำลังกาย ปกติแล้วการหายใจของเราจะค่อนข้างตื้น เมื่อเราเริ่มฝึกที่จะร้องเพลงจะต้องหายใจลึกๆ เพื่อรักษาระดับเสียงของเราให้ดังชัดเจนสำหรับผู้ฟังของเรา ในตอนแรกอาจรู้สึกเวียนศีรษะเมื่อหายใจลึกขึ้น เพราะระดับออกซิเจนเข้าสู่สมองมากเกินไป แต่อย่าเครียดไปเลย ร่างกายของคุณแค่ต้องคุ้นเคยกับการหายใจที่เหมาะสมก่อน ถึงจะนำมาใช้ประโยชน์ได้

Read more
loudkaraoke

เพลง “ฉ่อย” นั้นเป็นเพลงพื้นเมืองที่มีการแสดงและการร้องคล้ายกับ “ลำตัด” ที่เป็นการแสดงของมลายู สำหรับเพลงฉ่อยจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายชาย และ ฝ่ายหญิง โดยแต่ละฝ่ายจะมีสมาชิก 2 – 3 วัน โดยจะมีการแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองส่วนคือ “พ่อเพลง – แม่เพลง” และ “ลูกคู่” ที่จะร้องโต้ตอบระหว่างกัน เนื้อหาที่นำมาใช้ในเพลงนั้นมีความหลากลาย ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับทางโลก จุดเด่นของการร้องเพลงฉ่อยคือไม่จำเป็นต้องมีเครื่องดนตรีบรรเลง สิ่งที่ใช่แทนจังหวะคือการตบมือ ทำนองการร้องของเพลงฉ่อยที่เป็นเอกลักษณะคือการตอบโต้ระหว่าง ลูกคู่ และ แม่เพลง สำหรับลูกคู่จะรับทำนองด้วยการร้องว่า “เอ่ ชา เอ้ชา ชา ชาชาชา หน่อยแม่” เพลงฉ่อยนี้เริ่มเป็นที่นิยมกันตั้งแต่ พ.ศ.2437 โดยมีชื่อเรียกแบบชาวบ้านกันว่า “เพลงไอ้เป๋” สาเหตุที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะพ่อเพลงคนแรกชื่อ “ตาเป๋” ทำให้คนหันมาเรียกชื่อตาคนนี้แทนมากกว่า จนกระทั่งการแสดงเพลงได้เป็นที่นิยมอย่างมากในแถบจังหวัดฉะเชิงเทรา และยังแพร่อิทธิพลไปอย่างจังหวัดใกล้เคียง หรือไม่ก็เรียกว่า “เพลงฉ่า ตามคำร้องรับของลูกคู่นั่นเอง การแสดงเพลงฉ่อยส่วนใหญ่มักจะจัดขึ้นตามงานเทศกาล หรือสังสรรค์ของหมู่บ้าน มักจะแต่งกายเรียบงง่ายตามที่ถนัด ซึ่งมักจะนุ่งโจงกระเบน หรือ ใส่เสื้อที่มีสีสันสะดุดตาคนดู […]

Read more

ถ้ามองหาร้านอาหารที่เต็มไปด้วยบรรยากาศดี ๆ อาหารอร่อย แถมพนักงานเป็นกันเอง ต้องมาที่ร้าน  Alphabet Cafe & Bar ที่จะตอบทุกโจทย์ของคุณพร้อมกับอาหารสไตล์ยุโรปที่พร้อมจะเสริฟ์แบบห้าดาวบนโต๊ะของคุณในราคาที่ไม่แพง  Alphabet Cafe & Bar เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในย่านสีลม ซึ่งเป็นบริเวณที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ทำให้สะดวกในการสัญจรไปมาของผู้คน ทำให้ร้าน  Alphabet Cafe & Bar เป็นหนึ่งในสถานที่หยุดพักของสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่ต้องการช่วงเวลาพักผ่อนที่สามารถดื่มด่ำไปกับอาหารท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ยุโรปได้ที่ร้านแห่งนี้ โดยเมนูของร้านก็ถือว่าจัดเต็มด้วยฝีมือพ่อครัวระดับเทพที่คอยทำอาหารสุดอร่อยคอยเสริฟ์ให้กับบรรดาลูกค้าที่มาใช้บริการ เมนูเด็ด ๆ ภายในร้านก็มีตั้งแต่สปาเก็ตตี้เส้นดำทะลที่มาพร้อมกับกุ้งตัวโต ๆ และหมึกชิ้นใหญ่ ที่สำคัญของที่ร้านคัดสดมาทุกวันเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานของอร่อย ๆ กันแบบสดใหม่ หรือจะเป็นเนื้อริบอายย่างกระทะร้อนที่มาพร้อมกับน้ำจิ่มแจ่วแบบไทย ๆ อร่อยไปอีกแบบในราคาไม่แพง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนบอกเลยว่าทางร้านไม่ทำออกมาให้ผิดหวัง ถ้าไม่เชื่อสามารถหาดูรีวิวได้จากเพจของทางร้านดูได้เลยครับ นอกจากนี้ Alphabet Cafe & Bar ยังให้บริการเครื่องดื่มสุดพิเศษสำหรับคุณสาว ๆ ที่ชื่นชอบทานน้ำผลไม้ โดยเฉพาะอย่างน้ำพันซ์ เมื่อเรารู้จักกับผลงานของร้านมามากแล้ว ลองมารู้จักผู้อยู่เบื้องหลังผลงานกันบ้างหน่อยจะเป็นไร ร้าน […]

Read more

ชาคาริคิ 432 เป็นร้านปิ้งย่างแบบโอซากาที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่เราสามารถสนุกกับการทำทาโกยากิได้ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยชอบสุด ๆ กับสไตล์การกินอาหารแบบนี้ ส่วนชื่อร้านนั้นบงบอกถึงความจริงใจที่อยากให้ลูกค้าทุกคนได้มาสนุกกันพร้อมกับทานอาหารอร่อย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่เคยเจอที่ไหน ส่วนเลขตามหลังนั้นหมายถึงนามสกุลของเจ้าของร้าน ส่วนร้านอาหารมีอยู่สองสาขาได้แก่ฮโศก และที่สาขาอยู่ที่ศรีราชา โดยราคาบุฟเฟต์ปิงย่างของทางร้านชาคาริคิอยู่ที่ 699 บาท สำหรับเด็กไม่เกิน 14 ปี 499 บาท โดยเนื้อที่นำเข้ามาทำนั้นเป็นเนื้อส่วนที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพเนื้อเกรดเอได้เลยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทานเนื้อ ภายในร้านมีการตกแต่งแบบเก๋ ๆ โดยโทนสีแดงเป็นหลักมองแล้วรู้สึกสนุกและเป็นมิตรมาก ๆ ในขณะที่ด้านในมีโต๊ะขนาดกระทัดรัด พร้อมกับเบาะนั่งที่แสนจะนุ่มสบาย ซึ่งก่อนจะเข้าร้านต้องทำตามธรรมเนียมญี่ปุ่นเสียก่อน อย่าลืมถอดรองเท้าเอาไว้ด้านหน้าก่อนเข้าไป ใครที่คิดว่าการนั่งกินแบบนี้จะเมื่อยก็สามารถเปลี่ยนท่าไปนั่งหย่อนขาได้ เพราะด้านล่างโต๊ะเป็นช่องว่างสำหรับหย่อนขาไว้เพื่อเปลี่ยนอริยาบทไม่ให้ลูกค้าเมื่อย คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยชินการนั่งแบบนี้ เจ้าของร้านคิดรอบครอบอย่างมากต้องนับถือพี่แกเลยจริง ๆ วัสดุที่ใช้ภายในร้านส่วนใหญ่จะเน้นโทนสีไม้ โต๊ะก็ไม้ พื้นก็ไม้ แถมเบาะยังสีเดียวกับไม้อีก ทำให้ดูเรียบหรูสวยงามไปอีกแบบ สำหรับคนที่อยากจะกินแบบแบบหม้อไฟญี่ปุ่นทางร้านก็มีให้เช่นกันทั้งเนื้อหมู วัว สามารถเลือกสั่งมารับประทานได้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีให้บางเฉพาะสาขาอันนี้ต้องตรวจสอบกันก่อนไปนะครับ เดียวจะพลาดไปแล้วไม่มีจะซวยเอา โดยรายการหม้อไฟที่มีจะให้เราเลือกชุดเนื้อตามที่เราต้องการ ได้แก่ 1นาเบะไส้วัว และหมูสไลด์ (Kasu Motsu Nabe) นาเบะไก่ (Tori Nabe) […]

Read more
qefqwef

ธุรกิจร้านคาราโอเกะแม้ว่าช่วงนี้อาจจะไม่บูมเหมือนกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ยังสามารถไปต่อได้อยู่ แต่การทำคาราโอเกะนั้นจะต้องมีการทำอะไรบางอย่างให้ไม่เหมือนเดิมเพื่อดึงดูดลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการให้มากขึ้นด้วย หากใครอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับคาราโอเกะต้องเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง เรารวบรวมมาให้ดูกัน ลิขสิทธิ์เพลง เรื่องสำคัญของการทำธุรกิจคาราโอเกะ นั่นคือกฎหมายด้านลิขสิทธิ์ตรงนี้เราในฐานะเจ้าของธุรกิจต้องมีการศึกษามาเป็นอย่างดี เนื่องจากเราทำธุรกิจเกี่ยวกับเพลง ค่าลิขสิทธิ์ตรงนี้บอกตามตรงว่าสมน้ำสมเนื้อ หากเราติดต่อเจ้าของค่ายเพลงให้เรียบร้อย เสียเงินให้เรียบร้อยเป็นรายปี ก็ถือว่าซื้อความสบายใจกันไป เวลาโดนตรวจโดนถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ไม่ต้องกังวล ภาพและเสียง คาราโอเกะจะเกิดประสิทธิภาพได้นั้น สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของภาพและเสียง อันนี้เราต้องเรียนรู้และศึกษาไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง ไมค์ ลำโพง อันนี้ต้องเซ็ตตั้งค่าให้ชัดเจน เสียงดัง ฟังดี ไมค์ไม่หอน ด้านภาพก็ต้องชัดเจน จะเอาออกจอทีวี หรือ จอโปรเจคเตอร์ ก็ต้องเซ็ตให้เรียบร้อย หากภาพดี เสียงชัด ไมค์ไม่หอน รับรองว่าลูกค้าร้องแล้วติดใจก็อยากจะร้องต่ออีก ได้รับความประทับใจกลับบ้านจนต้องบอกต่อคนอื่น การตกแต่งห้อง ธุรกิจคาราโอเกะแบบตู้หยอดเหรียญ ส่วนตัวมองว่าหากตรงที่จะลงตู้นั้นไม่ได้เป็นจุดศูนย์รวมของวัยรุ่นโอกาสเกิดนั้นยากมากทีเดียว การทำธุรกิจคาราโอเกะแบบห้องจัดเลี้ยงดูจะตอบโจทย์มากกว่า ดังนั้นเจ้าของธุรกิจอาจจะต้องศึกษาและมีหัวด้านการตกแต่งห้องด้วย ห้องสวย น่านั่งจะเป็นการสร้างความประทับใจแรกต่อผู้ใช้บริการด้วย หากไม่ค่อยมีหัวก็ไม่ยากขอแนะนำให้ไปลองหาหนังสือตกแต่งภายในมาดูเป็นแบบอย่างก็ได้ ต้องมีสักแบบแหละหน่าที่ถูกใจ กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง การทำธุรกิจ คาราโอเกะ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอะไรอีกหลายอย่างไม่เพียงแค่ลิขสิทธิ์เพลงเท่านั้น หากทำเกี่ยวกับร้านอาหารยังเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลลกฮอล์อีก ตรงนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีว่าเรามีใบอนุญาตจำหน่ายหรือไม่ หรือ กำหนดเวลาเปิดปิด อันนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีเกิดเปิดเกินเวลาอาจจะทำให้มีคนไปฟ้องตำรวจแล้วงานจะเข้าเราได้ […]

Read more

การร้องเพลงนับว่ากิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างหนึ่งในบ้านเรา สังเกตได้จากรายการประกวดร้องเพลงในทีวีมีเยอะมากเกือบทุกช่อง ทุกวัน และเกือบทั้งวันเลยทีเดียว การร้องเพลงเป็นกิจกรรมที่ทำง่ายใครก็ทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงวัยนอกจากความสนุกสนานแล้วการร้องเพลงให้อะไรกับเราบ้าง วันนี้เรามีเฉลยมาเล่าให้ฟัง ร้องเพลงช่วยผ่อนคลายความเครียด อย่างแรกข้อดีของการร้องเพลง มันเป็นวิธีการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่ง การได้ปลดปล่อยตัวเองด้วยการตะโกนออกมาด้วยเสียงร้อง หรือจะเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากความเครียด ความกังวลอะไรบางอย่าง มานั่งฟังเพลงที่ตัวเองชอบก็จะทำให้จิตใจของเราลืมเรื่องเหล่านั้นได้สักพักหนึ่ง ซึ่งการลืมช่วงเวลาประมาณ 3 นาทีของเพลงนี้แหละจะช่วยให้ความเครียดลดลง ไม่แน่การร้องเพลงอาจจะทำให้เราเห็นทางแก้ปัญหาใหม่ก็เป็นได้ ร้องเพลงเป็นการเข้าสังคม การร้องเพลงเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำง่ายมาก ทำให้เรามักจะเห็นการร้องเพลงเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมงานรื่นเริงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลอง งานแต่ง งานบวช และอีกสารพัดงาน นั่นทำให้การร้องเพลงจัดว่าเป็นเครื่องมือเข้าสังคมวิธีหนึ่ง หากเวลาไปงานไหนหลายคนมักจะได้รับการขอร้องให้ขึ้นเวทีจัดสัก 1 บทเพลง หรือบางคนก็ใช้การร้องเพลงเป็นการแนะนำตัวเองด้วย ดังนั้นหากมีเวลาเราควรฝึกร้องเพลงประจำตัวไว้สัก 1 เพลงเผื่อเข้าสังคม ร้องเพลงสร้างความมั่นใจ เวลาเราร้องเพลงมักจะได้ร้องอยู่บนเวทีหน้าหรือผู้คนด้วย หากเราจะออกไปร้องเพลงก็ต้องมีความมั่นใจเป็นที่ตั้งแล้วส่วนหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่เราจะได้จากการร้องเพลงนั่นคือมันจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราด้วย ความมั่นใจตรงนี้จะเพิ่มด้านอื่นด้วยเช่นเรื่องงาน บุคลิกภาพ การแต่งตัว และอีกมากมาย อีกทั้งส่งผลต่อเรื่องงานด้วยนะ ร้องเพลงเป็นการออกกำลังกาย กิจกรรมงานอดิเรกหลายอย่างนอกจากผ่อนคลายความเครียดแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายด้วยทางหนึ่ง อย่างโยคะ เป็นต้น การร้องเพลงก็เช่นกันทุกครั้งที่เราร้องเพลง มันเป็นเหมือนกับการได้บริหารปอดและช่องท้องเพื่อขับเสียงออกมา อีกทั้งการออกท่างทางเวลาร้องเพลงก็ได้ผลาญไปหลายแคลลอรี่เช่นกัน หากใครชอบการร้องเพลงเร็วแล้วไปฝึกเต้นนอกรอบอีกก็จะทำให้เราได้ออกกำลังกายอีกหลายส่วนเลย หรือ ใครอยากร้องเพลงอย่างจริงก็ต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อให้เสียงไม่ตก เห็นไหมว่าการร้องเพลงนอกจากจะให้ความสนุกสนานรื่นเริงแล้วยังให้ประโยชน์กับเราอีกหลายอย่างเลยนะว่าแล้วก็มาร้องเพลงกันดีกว่า

Read more

การฟังเพลงนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีหนึ่งที่ใครหลายคนชอบกันเวลาขับรถ เวลาผ่อนคลาย เวลาทำงาน หรือเวลาอื่นๆแล้วแต่ดังนั้นการฟังเพลงอะไร แนวเพลงแบบไหน เป็นการบ่งบอกตัวเราเองได้อย่าหนึ่ง หากเราได้เห็นเพื่อนหรือคนรอบข้างเค้าฟังเพลงอะไรแนวไหน มันจะบอกอะไรเราได้บ้าง แนวเพลงบ่งบอกรสนิยม การฟังเพลงอย่างแรกที่บอกได้เลยนั่นคือ รสนิยมของผู้ฟังนั้น ว่าเป็นอย่างไรชอบแบบไหน บางคนชอบฟังเพลงลูกทุ่ง เพลงสตริง เพลงร็อค เพลงแร็พ เพลงแจ็ส ฯลฯ เพลงเหล่านั้นจะบ่งบอกตัวตนอย่างอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร เราสามารถอ่านนิสัยใจคอ ความชอบของคนจากเพลงได้เลย เรื่องนี้สำคัญนะบางคนใช้วิธีนี้ในการอ่านใจฝ่ายตรงข้าม อ่านใจลูกค้าแล้วนำไปสู่การเปิดการสนทนาให้เป็นมิตรแล้วตบท้ายด้วยการขายของแบบสบายๆได้เลย (เนื่องจากคู่สนทนารู้สึกว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกัน) แนวเพลงบอกประสบการณ์ การฟังเพลงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่บ่งบอกประสบการณ์ของคนคนนั้นได้ แนวเพลงที่เราชอบฟังส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของตัวผู้ฟังเอง บางคนชอบเพลงแจ็สเนื่องจากได้ฟังเพลงนี้ตอนเด็ก บางคนชอบเพลงร็อคเนื่องจากเคยฟอร์มวงกับเพื่อนสมัยมัธยมเข้าแข่งขันด้านดนตรี หรือบางคนชอบเพลงลูกกรุงเนื่องจากฟังพร้อมกับคุณตาคุณยายตอนเด็กก็เป็นไปได้เหมือนกัน ตัวอย่างประสบการณ์เหล่านี้จะหล่อหลอมให้เราเลือกชอบแนวเพลงดนตรีของตัวเอง แนวเพลงบอกความนิยม(ตอนนั้น) ไม่เพียงแค่ฟังเพลงตามความชอบเท่านั้น การฟังเพลงแนวใหม่หรือตามกระแสก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุด้วย อย่างเพลงแร็พ หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่ามีแนวดนตรีแบบนี้กลับไม่เคยฟังเพลงเลยก็ได้ แต่พอเห็นรายการแข่งขันเพลงแร็พจากโทรทัศน์ก็เลยสนใจอยากฟังเพลงแร็พขึ้นมา ส่วนจะฟังแล้วชอบหรือไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แนวเพลงบอกลักษณะนิสัย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่บางคนเชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อนั่นคือ แนวเพลงเป็นการบอกลักษณะนิสัยได้ด้วย แนวเพลงแจ็สมักจะเป็นคนสุขุมนุ่มลึก แนวเพลงร็อคอาจจะเป็นคนดุดัน แนวเพลงลูกทุ่งมักเป็นคนจริงใจ อะไรง่ายๆ พูดกันตรงๆ ซึ่งเรื่องแบบนี้เราอยากบอกว่าก็พอดูได้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง เนื่องจากนิสัยของคนเรามีส่วนประกอบหลายอย่าง เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการฟังเพลง แนวเพลงที่เราชื่นชอบ มันเปรียบเสมือนกระจกใบเล็กสะท้อนตัวตนของเราออกมาในบางมุมด้วย แล้วเพื่อนๆละชอบฟังเพลงแนวไหนกันบ้างแล้วมันสะท้อนตัวตนของเราออกมาอย่างไร

Read more

หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วเชื่อว่าหลายคนอยากไปและชอบไปอย่างมาก นอกจากความเป็นระเบียบสวยงามของบ้านเมืองเค้าแล้ว ญี่ปุ่นยังมีวัฒนธรรมน่าสนใจอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะ กันดั้มกันพลา วงgirlgroup และอีกมากมาย รวมถึง การร้องคาราโอเกะด้วย ที่ญี่ปุ่นนี่ถือว่าเป็นต้นเนิดเลยก็ว่าได้ มาดูกันว่าความสุดยอดของคาราโอเกะญี่ปุ่นคืออะไร บาร์เครื่องดื่มแบบไม่อั้น เวลาร้องเพลงเคยเป็นกันไหมว่า คอแห้ง เสียงหาย ร้องไม่ออก เหนื่อยแต่ยังอยากสนุกกันอยู่ หากเป็นบ้านเราอาจจะต้องสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหาย แต่ถ้าเป็นคาราโอเกะญี่ปุ่นเค้าล้ำกว่านั้น เนื่องจากเค้ามีบริการบาร์เครื่องดื่มแบบไม่อั้นไว้ให้เราด้วย สารพัดน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์รอเราอยู่เพียบ(บริการตัวเอง) แค่นี้ก็สดชื่นพร้อมลุยเพลงต่อไปแล้ว ส่วนใครเป็นคอดื่มก็มีบริการเหมือนกันอาจจะต้องสั่งพิเศษ อุปกรณ์เสริมความสนุก บ้านเราเวลาร้องเพลงคาราโอเกะแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นการปรบมือตามจังหวะ หรือหากเอามันส์เข้าไปอีกอาจจะเป็นการเคาะแทน แต่ญี่ปุ่นเค้าไม่เหมือนเรา เนื่องจากเค้าจะมีบริการเตรียมอุปกรณ์เสริมความสนุกไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น แทมบูรีน และ มาราคัส มีให้เลือกหยิบไปเสริมความสนุกให้การร้องเพลงไม่เหงาอีกด้วย(ไม่เสียค่าบริการเพิ่ม) หรือใครอยากสนุกกว่านั้น บางร้านมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกเพื่อเล่นเครื่องดนตรีผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย จะเพิ่มอรรถรสการร้องเพลงให้สนุกมากยิ่งขึ้น ห้องคาราโอเกะแบบเดี่ยว การจัดห้องคาราโอเกะของญี่ปุ่นก็จัดว่าหลากหลายมากทีเดียว บ้านเราห้องคาราโอเกะมักจะเป็นแบบกลุ่มตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ในประเทศญี่ปุ่นห้องร้องคาราโอเกะแบบนั้นพวกเค้าก็มี ไม่เพียงแค่นั้นพวกเค้ามีห้องคาราโอเกะแบบเดี่ยวด้วย ห้องนี้มันเจ๋งตรงที่เค้าเตรียมอุปกรณ์ให้เราร้องเหมือนกับไปอยู่ห้องอัดเสียงยังไงยังงั้นเลย ทั้งระบบมิกซ์เสียงขั้นเทพจะทำให้เรารู้สึกเหมือนไปอัดเพลงเพื่อออกซิงเกิ้ลสักครั้งในชีวิต(ไม่แน่อนาคตอาจจะมีการอัดเพลงพร้อมหน้าปกแถมให้เป็นที่ระลึกแก่ลูกค้าก็เป็นได้) อาหารก็สุดยอด วัฒนธรรมทางด้านอาหารของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็จัดเข้าขั้นระดับพรีเมี่ยมเช่นกัน อาหารของพวกเค้าเต็มไปด้วยเสน่ห์และความอร่อยปนกัน คาราโอเกะญี่ปุ่นนั้นมีหลายแห่งที่มีบริการด้านอาหารด้วยวิธีการก็ไม่ยากเลยเพียงแค่เรียกพนักงานมาแล้วก็ชี้รูปให้ดูเพียงแค่นั้นเราก็ได้ชิมอาหารอร่อยพร้อมกับร้องเพลงไปด้วยแล้ว ใครอยากสัมผัสความฟินระดับสุดยอดของการร้องคาราโอเกะแนะนำลองไปใช้บริการในประเทศญี่ปุ่น

Read more
เด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอร์รอง karaoke สุดฮิป

สำหรับใครที่ชื่นชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจแน่นอนว่าร้านคาราโอเกะคือสวรรค์ของคุณโดยแท้แต่จะดีกว่าหรือไม่หากร้านที่คุณไปไม่ใช่แค่ร้านคาราโอเกะเพียงอย่างเดียวทว่ายังมีบรรยากาศที่น่าสนใจจนต้องอยากกลับไปอีกรอบ ถ้ากำลังมองหาร้านคุณภาพดีแบบนี้อยู่ต้องขอแนะนำ เด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม& เรสเตอร์รอง ที่นอกจากจะเป็นร้านคาราโอเกะแล้วบรรยากาศของร้านยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกๆ คนได้ไม่ยาก ยิ่งทำให้คุณจะลืมบรรยากาศร้านคาราโอเกะแบบเดิมๆ ไปได้เลย สุดยอดร้านคาราโอเกะสุดฮิป เด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอร์รอง เด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอร์รอง เป็นร้านอาหารที่ถูกออกแบบมาในสไตล์เหมือนกับอยู่ท่ามกลางฟาร์มอันแสนอบอวนไปด้วยธรรมชาติแบบเมืองนอก หร้อถ้าหากอยากนึกภาพที่เห็นได้ชัดเจนกว่านี้ใครที่เคยไปเยี่ยมเยียนแถบสวนผึ้งน่าจะคุ้นเคยกับบรรยากาศประมาณนี้เป็นอย่างดี ยิ่งใครชื่นชอบแนวธรรมชาติหน่อยๆ จะต้องลองมาที่ร้านแห่งนี้ให้จงได้ ความคลาสสิกก็คือเป็นร้านอาหารสไตล์ฟาร์มแต่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่รถแสนติดย่านลาดพร้าวอีกต่างหาก ภายในร้านถูกตกแต่งตามแบบฉบับของการทำฟาร์มไม่ผิดเพี้ยนทั้งโต๊ะเก้าอี้ก็ทำจากไม้ส่วนใหญ่ มีแกะและสัตว์เลี้ยงต่างๆ ให้ได้ชมความน่ารักเป็นอาหารตาก่อนอิ่มท้องกันอีกด้วย มีกระท่อมขนาดใหญ่ที่ทำให้เหมือนกับว่าคุณกำลังเดินเข้ามายังฟาร์มจริงๆ ภายในก็จะมีห้องหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้บริการอย่างเต็มที่ ใครอยากจะดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ที่นี่ก็มีไว้คอยให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศของดนตรีสดให้ได้เพลิดเพลินระหว่างทานอาหาร แต่แน่นอนว่าหากมาร้านนี้ยังไงก็ต้องไม่พลาดการร้องคาราโอเกะที่จะมีห้องส่วนตัวให้ได้ร้องกันแบบเต็มที่ ซึ่งภายในแต่ละห้องก็จะมีบรรยากาศต่างกันออกไปช่วยสร้างความสนุกสนานในการผ่อนคลายได้อีกหลายเท่า ส่วนเรื่องของอาหารที่นี่ก็มีเมนูอาหารแนะนำหลากหลายเริ่มต้นด้วยซี่โครงบรั่นดี, ไก่ไวน์แดง, สลัดไก่มะนาว, ยำผักบุ้งกรอบ, เย็นตาโฟหม้อไฟ, ไส้กรอกรวม, ต้มแซ่บเอ็นหมู, ยำสามทัพ, สี่สหายเด็กเลี้ยงแกะ, น่องสุวนันท์ เป็นต้น หรือหากใครตั้งใจมาร้องคาราโอเกะล้วนๆ แต่ขอสั่งอาหารจานเดียวทานให้อิ่มท้องก็มีเมนูจานเดียวง่ายๆ อย่าง ข้าวผัดหรือข้าวกะเพราะไว้ให้บริการด้วย เด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอร์รอง เปิดตั้งแต่ 5 […]

Read more